เหตุฝนตกหนักน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 6 ก.ย. 2565 สร้างความโกลาหลให้กับผู้เดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน จากสภาพจราจรติดขัดอย่างหนักรถไม่ขยับ และถนนหลายสายเต็มไปด้วยน้ำท่วมขังล้นริมฟุตปาท ปริมาณฝนสูงสุดบริเวณจุดวัดคลองบางบัว เขตบางเขน อยู่ที่ 178 มม. ทำให้ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ออกมาบอกเป็นฝนตกหนักสุดในรอบ 130 ปี
แต่เหตุการณ์น้ำท่วมขังพื้นที่หลายจุดในกรุงเทพฯ มีการตั้งข้อสังเกตว่าส่วนหนึ่งมาจากการระบายน้ำเข้าพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี น้อยมาก หากเทียบกับปีที่แล้วปริมาณน้ำ 600 ลบ.ม.ต่อวินาที ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะดันน้ำส่วนหนึ่งเข้าพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี 100-120 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ปีนี้ปริมาณน้ำมีมากถึง 1,500-1,600 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ดันเข้าพื้นที่สุพรรณบุรี เพียงแค่ 20 ลบ.ม.ต่อวินาที อาจมีส่วนทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ก็เป็นไปได้
“รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ออกมาเตือนให้กรุงเทพฯ รับมือปริมาณฝนที่จะตกหนักมาก ตั้งแต่เดือน ก.ย.เป็นต้นไป และมีโอกาสจะเกิดฝน 100 ปี ปริมาณฝน 260 มม.ต่อวัน สร้างความเสี่ยงให้เกิดน้ำท่วมหนัก ได้ออกมาย้ำอีกครั้งว่า ฝนที่ตกหนักเมื่อวันที่ 6 ก.ย. เป็นไปตามคาดปริมาณฝนอยู่ที่ 150-180 มม. แต่ทำไมไม่มีการเตรียมรับมือ เพราะรู้ว่าฝนจะตกหนัก จนเกิดน้ำท่วมขังหลายจุด หรืออาจเป็นเพราะเครื่องสูบน้ำเสียหลายจุดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ ซึ่งรวมถึงน้ำเหนือที่เข้ามา
ขณะที่ประตูระบายน้ำคลองเปรมประชากร ต้องระบายน้ำในกรุงเทพฯ สูบลงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ และเมื่อเครื่องเสียสูบน้ำไม่ได้ ทำให้พื้นที่ริมคลองรังสิตเกิดน้ำเอ่อท่วม รวมถึงพื้นที่ในกรุงเทพฯ และหากฝนตกหนักอีกในช่วงดึกวันที่ 7 ก.ย. จะทำให้กรุงเทพฯ สาหัสหนัก ก่อนฝนจะเบาลงและตกหนักในพื้นที่ภาคกลางตอนบน และภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. จนถึง 10 ก.ย. และหลังจากนั้นฝนจะเบาลง
“ขอให้คนพื้นที่พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย และใกล้เคียง เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก โดยเฉพาะผู้อยู่อาศัยริมคลอง และให้ระวังน้ำป่าไหลหลาก จะเกิดน้ำท่วมขัง 20-30 ซม. แต่น้ำจะมาเร็วไปเร็ว”
ส่วนสัญญาณพายุก่อตัวในช่วง 10 วันข้างหน้ายังไม่มี แต่ยังคงมีหย่อมความกดอากาศต่ำทำให้เกิดร่องฝน ทำให้ฝนมีแนวโน้มตกหนักต่อเนื่อง หรือใน 1 สัปดาห์ จะเกิดฝนตกหนัก 2 วัน และตกเบาบางลงสลับกันในแต่ละสัปดาห์.