กองทัพภาคที่ 3 เกาะติดชายแดนจังหวัดตาก พร้อมจัดสถานที่ 23 แห่งรับอพยพ ทั้งคนไทย-เมียนมา

This image is not belong to us

วันที่ 19 มีนาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก กอ.รมน.ภาค 3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 3 ได้นำคณะสื่อมวลชนจาก 5 จังหวัด ประกอบไปด้วย จ.สุโขทัย กำแพงเพชร นครสวรรค์ เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร มาศึกษาดูงาน ในพื้นที่กอ.รมน.ภาค 3 โดยมีพล.ต.เทอดศักดิ์ งามสนอง เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 3 ในฐานะ โฆษกกองทัพภาคที่ 3/กอ.รมน.ภาค 3 คอยกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนและกล่าวถึงการทำงานในพื้นที่ พร้อมกับเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สอบถามของการทำงาน

โดยเฉพาะในเรื่องปัญหาความขัดแย้งของประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมา ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบต่อประเทศไทย เรื่องนี้ พล.ต.เทอดศักดิ์ งามสนอง เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 3 เตรียมความพร้อมในการหาสถานที่เพื่อรองรับผู้หนีภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมา ด้านจังหวัดตาก ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารบกเรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนจะจัดเป็นพื้นที่แรกรับเพื่อคัดแยก แบ่งไปตามสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะนี้ได้มีการตั้งเต็นท์ภายในสนามกีฬาแล้ว ยืนยันว่ามีความพร้อมมากกว่า 90%

สำหรับการปฎิบัติจะจำแนกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่หลบหนีเข้ามาเพื่อรักษาตัวเองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากระบบสาธารณสุขของประเทศเขาไม่เพียงพอ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดูแลส่วนนี้ กลุ่มที่ 2.คือผู้ที่ได้รับผลกระทบหลังเหตุการณ์ยึดอำนาจ ซึ่งมีการมองว่า อาจจะมีนักการเมืองนักศึกษาที่ต่อต้านรัฐบาลหนีเข้ามา ขณะนี้อยู่ในช่วงการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นอย่างไร

พล.ต.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการประสานงานระหว่างทหารกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อไม่ให้ปล่อยตัวผู้ลักลอบหนีเข้าเมืองหลังถูกจับกุม ทางทหารทำงานในการตรวจพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยดำเนินการร่วมกับผู้นำชุมชน ทั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ต้องเข้าใจว่า ก่อนหน้านี้สภาพความเป็นอยู่ของชนกลุ่มน้อย บริเวณแม่น้ำเมยและสาละวินไม่ใช่ลักษณะการแบ่งเขตประเทศ แต่เป็นการอยู่แบบชุมชน บางคนอยู่ฝั่งเมียนมา แต่ลูกหลานมาเรียนฝั่งไทยมาอาศัยในหมู่บ้าน การแยกแยะก็เป็นหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถ้าเข้าข่ายนี้ก็จะผลักดันกลับประเทศ แต่ไม่ใช่ และเข้ามาแบบผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดทำแผนปฎิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมา ด้านจังหวัดตาก โดยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอนประกอบด้วย 1.การประเมินสถานการณ์ซึ่งได้วิเคราะห์ว่ามีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบให้เกิดการหนีภัย 2.ขั้นตอนการแรกรับเพื่อคัดแยกกลุ่มบุคคลก่อนส่งไปรวบรวมในพื้นที่พักรอและกักกันโรคพื้นที่ โดยมี ผบ.ฉก.ร.4 เป็น ผบ.เหตุการณ์พื้นที่แรกรับ 3.การนำพื้นที่พักคอยและกักกันโรคซึ่งจัดตั้งขึ้นในสภาวะฉุกเฉินโดยจะจำแนกตาม ประเภทบุคคลเพื่อนำไปควบคุมและกักกันโรคในสถานที่ที่กำหนดโดยมีนายอำเภอประจำท้องถิ่นนั้นเป็นผบ.เหตุการณ์พื้นที่พักรอ ซึ่งหากตรวจพบผู้ป่วยให้ส่งตัวไปรักษาทันที 4.การปฏิบัติตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องหลังสถานการณ์คลี่คลายโดยพิจารณาว่าบุคคลนั้นเป็นผู้หนีภัยสงครามหรือต้องการลักลอบเข้ามา

ทั้งนี้ได้จัดประเภทบุคคลเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มคนไทยที่ทำงานในเมียนมาร์ 2.บุคคลสัญชาติเมียนมาที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลหรือกองกำลังติดอาวุธ และ 3.บุคคลสัญชาติอื่นเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศกลุ่มเอ็นจีโอบุคคลอื่นๆผู้ลี้ภัยทางการเมือง สำหรับพื้นที่รองรับใน จ.ตาก หากมีการอพยพเข้ามาจะเข้าพื้นที่แรกรับ มีทั้งหมด 10 จุด พื้นที่พักรอ 23 แห่ง ใน 5 อำเภอ ของจังหวัดตาก


กำแพงเพชร

กำแพงเพชร

กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง พระแสงฯ ล้ำค่า ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ เลื่องลือมรดกโลก

Next Post

บทความ แนะนำ

Welcome Back!

Login to your account below

Create New Account!

Fill the forms below to register

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.