ปลัด สธ. กำชับดูแลผู้ป่วยจิตเวชเหมือนคนในครอบครัว ให้ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิตและคณะ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตในเขตสุขภาพที่ 3 พร้อมให้กำลังใจบุคลากรและเจ้าหน้าที่ และกล่าวว่า ปัญหาการฆ่าตัวตายของเขตสุขภาพที่ 3 พบมากสุดในกลุ่มวัยทำงานโดยเป็นเพศชายมากกว่าหญิง ปัจจัยร่วมที่พบมากที่สุดคือ ปัญหาด้านความสัมพันธ์ รองลงมาคือ ปัญหาโรคเรื้อรังทางกาย และปัญหาด้านเศรษฐกิจ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 3 ซึ่งรับผิดชอบดูแล 5 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี และชัยนาท ได้มีแนวทางดำเนินงานโดยการวิเคราะห์พื้นที่สีแดง เพื่อดำเนินการสอบสวนโรคทันที ค้นหาปัจจัยเสี่ยงพร้อมแก้ไขปัญหา หากพบว่ามีโรคทางจิตเวช ปัญหาสุรา สารเสพติด และโรคทางกาย จะต้องได้รับการรักษาและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเน้นมาตรการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งต่อสัญญาณเตือนการฆ่าตัวตายให้แก่ญาติ ผู้ดูแล อสม.ในพื้นที่ เพื่อให้ช่วยกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านจิตใจ ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลผู้ป่วยจิตเวชเสมือนเป็นคนในครอบครัวให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้สะดวก รวดเร็ว และสามารถใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข
สำหรับ รพ.จิตเวชนครสวรรค์ พบว่ามีการดำเนินงานสุขภาพจิตหลายมิติ อาทิ การสนับสนุนงานด้านสุขภาพจิตตามพระราชดำรัส, พระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เช่น โครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ การดูแลจิตใจของบุคลากรเรือนจำและผู้ต้องขังในสถานการณ์โควิด 19 การให้คำปรึกษา การเยียวยาจิตใจประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 และบูรณาการงานสุขภาพจิตทุกกลุ่มวัยผ่านกลไกเขตสุขภาพ ครอบคลุมตั้งแต่ปฐมวัย วัยเรียน วัยรุ่น และวัยทำงาน