ผู้การฯ ตร.พิษณุโลก เซ็นไล่สารวัตรกร่างออกจากราชการ

ผู้การฯ ตร.พิษณุโลก เซ็นไล่สารวัตรกร่างออกจากราชการ หลังถือปืนข่มขู่ทำร้ายชาวบ้าน

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการสารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ถืออาวุธปืนข่มขู่ทำร้ายชาวบ้านส่วนข้อหาคดีอาญาให้ทาง ภ.จว.กำแพงเพชร ท้องที่เกิดเหตุเป็นผู้ดำเนินการ

จากกรณี พ.ต.ท.ยสพนต์ พวงทอง อายุ 48 ปี ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สารวัตรหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ก่อเหตุไปทำร้ายร่างกายชาวบ้านและถืออาวุธปืนยาวข่มขู่สร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายคลิปขณะก่อเหตุนำไปเผยแพร่ลงสื่อออน ไลน์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นกระแสร้อนแรงอยู่ในขณะนั้น ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้ตั้งคณะกรรมการในการสืบสวนข้อเท็จจริงตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ทาง ผบช.ภ.6 ได้สั่งกำชับให้เร่งดำเนินการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นโดยด่วน เนื่องจากยังเป็นคดีที่ยังอยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชน และภาพลักษณ์องค์การตำรวจ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ ขู่เข็ญ เหตุเกิดหน้าบ้านเลขที่ 170 หมู่ 3 ต.มหาชัย อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 และได้เร่งรัดสรุปสำนวนมีความเห็นให้ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พิจารณาสั่งการโดยเร็ว

ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นชอบตามที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงมีความเห็น จึงมีคำสั่งที่ 328/2564 ลงวันที่ 8 ต.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และ ภ.จว.พิษณุโลก พิจารณาเห็นแล้วว่ากรณีผู้ถูกกล่าวหาเข้าหลักเกณฑ์ การให้พักราชการ หรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน คือ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนและผู้ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมไม่น่าไม่วางใจ ถ้าให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายราชการ จึงมีคำสั่ง ภ.จว.พิษณุโลก ที่ 329/2564 ลงวันที่ 11 ต.ค. ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนข้อหาคดีอาญาให้ทาง ภ.จว.กำแพงเพชร ท้องที่เกิดเหตุเป็นผู้ดำเนินการในคดีต่อไป