บิ๊กป้อมฟิตจัด! วางคิวยาวลุยตรวจน้ำท่วมตจว.ทุกวันจันทร์ เดือนก.ย.ลุยกระบี่-ตาก-นราธิวาสดูบริหารจัดการน้ำ-แรงงาน-ที่ดินทำกิน ด้าน”ไผ่-พรชัย” แท็กทีมร้อง”ลุงป้อม” เร่งจัดสรรงบฯซ่อมแซมฝายกั้นแม่น้ำปิงพัง อุตุฯ เตือนรับมือฝนถล่มอ่วม5 วัน
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี General Prawit Wongsuwon” ที่ระบุ FC ทำขึ้น ได้โพสต์ข้อความว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี มีการวางกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการต่างจังหวัดทุกวันจันทร์ตลอดทั้งเดือนก.ย.65
โดยในวันที่ 5 ก.ย. มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.กระบี่ วันที่ 12 ก.ย.ลงพื้นที่จ.ตาก และวันที่ 19 ก.ย.ลงพื้นที่จ.นราธิวาส ซึ่งการลงพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นการลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในฐานะรองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ควบคู่ไปด้วย ทั้งในส่วนงานที่รับผิดชอบเรื่องปัญหาแรงงาน ปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน การแก้ปัญหาด้านที่ดินทำกินให้เกษตรกรและคนยากจน การคืนโฉนดอนุญาตทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพล.อ.ประวิตรรักษาการนายกฯได้ลงพื้นที่จ.ฉะเชิงเทราเป็นที่แรก ก่อนวางคิวลงพื้นที่ต่อเนื่องเดือนก.ย.
ด้าน นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมด้วย นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร พรรคเศรษฐกิจไทย และดร.ชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและตรวจดูความเสียหายของฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว ต.เทพนคร อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ที่เกิดการพังเสียหายจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เขื่อนพัง ความกว้างประมาณ 40 เมตร ซึ่งทำให้ระดับน้ำบริเวณหน้าฝายลดลงอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถส่งมายังพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และจ.พิจิตร สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วไปในพื้นที่ในขณะนี้
จากนั้นได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหา เพื่อเสนอให้พล.อ.ประวิตรในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ให้ช่วยเร่งรัดการจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมฝายวังบัว เป็นการเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ส.ส.พรชัยได้หารือในที่ประชุมสภา โดยขอร้องเรียนไปยังพล.อ.ประวิตรให้ดูแลและช่วยเหลืองบฯ สำหรับโครงการซ่อมแซมบำรุงรักษาฝายกั้นน้ำแม่น้ำปิงที่วังบัว ที่พังเสียหายดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ขาดแคลนน้ำ และอาจส่งผลกระทบในช่วงใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว พื้นที่จ.กำแพงเพชรและจ.พิจิตร ในช่วงประมาณเดือนธ.ค.นี้
วันเดียวกัน นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน(มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 5-9 กันยายน 2565) ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 04 ก.ย.65
โดยในช่วงวันที่ 59 ก.ย.65 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 5-9 ก.ย.65
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง