พลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายลักลอบพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 3 คดี ตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันคนต่างชาติที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
คดีแรกเป็นการจับกุมคนไทย 2 คน ที่ลักลอบพาแรงงานต่างด้าว 32 คน เข้าไทยโดยผิดกฎหมาย ผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยตำรวจไล่ติดตามจนไปจับกุมทั้งหมดได้ที่บริเวณถนนทางหลวงในตำบลหางดง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ หลังสืบทราบว่าขบวนการนี้จะลักลอบพาแรงงานดังกล่าวเข้ามาที่กรุงเทพฯ โดยใช้รถ 3 คัน คันหนึ่งนำเส้นทาง อีก 2 คันใช้ขนแรงงานเข้าเมืองโดยการนำตาข่ายคลุมท้ายรถเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
คดีที่ 2 ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ร่วมกันตรวจสอบเพิงพักไม่มีเลขที่ บริเวณที่ดินใกล้กับแม่น้ำเมยในหมู่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังสืบทราบว่าถูกใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวให้คนต่างด้าวระหว่างเตรียมหลบหนีเข้าเมือง เบื้องต้นได้จับกุมเจ้าของที่ดิน ที่เก็บเงินค่าเพิงพักหลังละ 300-500 บาทต่อเดือน และแรงงานต่างด้าวได้กว่า 20 คน นอกจากนี้ยังไปจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมากับพวก 17 คน ได้ที่สวนลำไย ในตำบลแม่ท้อ อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก หลังสืบทราบว่าได้นั่งรถกระบะขนผักจะหลบหนีเข้าเมืองเช่นกัน แต่รถเกิดเสียหลักตกข้างทาง ส่วนคนขับหลบหนีไป แต่สุดท้ายตำรวจก็ตามสืบสวนไปจับกุมตัวได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
และคดีที่ 3 เป็นการออกตรวจตราและตั้งด่านตรวจสกัดในพื้นที่อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร และบริเวณถนนเส้นทางกำแพงเพชร-พิจิตร ในอำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ได้ผู้ต้องหาทั้งคนไทยและคนต่างด้าวที่ต้องการหลบหนีเข้าเมืองรวมทั้งหมด 77 คน
จากผลการสกัดจับแรงงานต่างด้าวนับตั้งแต่ที่เปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นมา พลตำรวจตรีอาชยน ยอมรับว่า มีความพยายามลักลอบเข้าไทยเพิ่มขึ้นราว 10-20%