6 เม.ย.2565 – ที่ทำการพรรคเศรษฐกิจไทย นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเศรษฐกิจไทย ว่า ตอนนี้พรรคกำลังคัดสรรคนมาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส. ขณะที่ส.ส.ของพรรค ได้ลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนประชาชน เพื่อนำกลับมาหารือในพรรค คิดว่าในการประชุมพรรคครั้งหน้าจะเห็นนโยบาย รวมถึงการเปิดตัวผู้สมัครส.ส. และบิ๊กเนมที่เคยพูดไว้ก็จะเข้ามาร่วมงาน ตอนนี้พรรคกำลังคัดสรรคนดีที่สุด และตั้งแต่เปิดพรรคมีคนขอเข้าพรรคจำนวนมาก เราเป็นผู้เลือกต้องเลือกให้ดีที่สุด เลือกคนที่มีแนวคิดคล้ายกัน และทำงานในพื้นที่ได้มากที่สุด ซึ่งบิ๊กเนมที่ระบุทยอยเข้ามาร่วมงานกับพรรค และจะมีมือดีเรื่องเศรษฐกิจมาแน่นอน ส่วนการกำหนดวัน และสถานที่ประชุมใหญ่ขอดูความพร้อมหลังเทศกาลสงกรานต์ ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มหรือไม่ เนื่องจากหัวหน้าและเลขาธิการพรรค เป็นห่วงเรื่องสถานการณ์โควิด-19
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ บุตรชาย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเรียบร้อยหรือยัง นายไผ่ กล่าวว่า กำลังคุยกันอยู่ คนที่เก่ง คนที่ดี ก็ต้องมีการเจรจากันบ้าง และคิดว่านายเติมตระกูล คงไม่มีปัญหาอะไร และคงมาช่วยทำงานตามความถนัด เพราะลูกคงได้พ่อมาเยอะ
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐตั้งเป้า ส.ส 150 ที่นั่ง พรรคหลังเศรษฐกิจไทยมีเป้าหมายอย่างไร นายไผ่ กล่าวว่า เราตั้งใจทำให้ดีที่สุด ถ้าวันนี้นับตัวเลขส.ส.ในสภาฯแล้ว คงต้องมีถึง5,000คน ดังนั้นอย่าไปคุยตัวเลขเลย เราทำให้เต็มที่
เมื่อถามว่าจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทย ต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จะเป็นอย่างไร นายไผ่ กล่าวว่า เราชัดเจนมาตลอดตั้งแต่แรก ว่าทำงานให้ประชาชน แต่ใครพูดเรื่องประชาชนก็อาจถูกมองว่าเป็นการเมือง เป็นคำพูดที่ดูสวยอย่างเดียว แต่เราทำอย่างนั้นมาตลอด เมื่อถามย้ำว่าหากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง ในการอภิปรายหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ขอดูในวันนั้นก่อน เพราะการอภิปรายเป็นเอกสิทธิ์ส.ส. ยังไม่อยากพูดไปไกล เดี๋ยวจะไปตีความ แต่คิดว่าเราจะขอเป็นผู้ฟังมากขึ้น