เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เชียงใหม่/ลำพูน – อดีต ผอ.โรงเรียนฯ พื้นที่อมก๋อย หลั่งน้ำตาเผยชีวิตสุดรันทด..ค้ำประกันเพื่อนครูแม่ดาราสุดท้ายต้องใช้หนี้แทนกลายเป็นคนหมดตัวหลังเกษียณ บำนาญเดือนละเกือบ 3 หมื่นถูกหักแทบไม่เหลือ แถมอดีต ผอ.ผู้ค้ำคนที่ 8 กับภรรยาถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต อีกรายกลายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต
นายวินัย สังขวรรณะ วัย 65 ปี อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านผาปูน ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางไปเยี่ยม นายสีมา พิทักษ์กมลรัตน์ วัย 68 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนแม่หลองน้อย อ.อมก๋อย ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์จากเส้นเลือดฝอยในสมองแตก ทำให้ขาซีกขวาขยับไม่ได้ต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยเดิน ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านท่าต้นงิ้ว หมู่ 2 ต.ปากบ่อง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน 1 ใน 8 ผู้ร่วมชะตากรรมค้ำประกันให้กับครูวิชชุ..อดีตครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.อมก๋อย และเป็นแม่ของดาราหนุ่มชื่อดังที่เบี้ยวหนี้ธนาคาร
เมื่อไปถึงที่บ้านของอดีต ผอ.สีมา พบว่าอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพังกับสุนัข 1 ตัว ส่วนลูกๆ ไปทำงานและมีครอบครัวที่อื่นกันหมด จากนั้นได้มีการพูดคุยกัน พร้อมกับย้อนเรื่องราวในอดีตที่เป็นกรรมการกลุ่มย่อยกองทุนพัฒนาชีวิตครูอมก๋อย รวม 8 คน
ผอ.วินัยเล่าถึงอดีตว่า ครูวิชชุ..แม่ดาราหนุ่มที่เป็นกรรมการกลุ่มด้วย ได้กู้เงินสมาชิกกลุ่มย่อยกองทุนพัฒนาชีวิตครูอมก๋อย 2 แสนบาท ซึ่งสมาชิกต่างคนต่างค้ำประกันซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ คณะกรรมการกลุ่มย่อยกองทุนฯ ยังได้เซ็นค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารแม่ดาราหนุ่มซื้อบ้านที่ ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร อีก 1.4 ล้าน
ต่อมาทางกลุ่มย่อยกองทุนพัฒนาชีวิตครูอมก๋อยเริ่มไม่มั่นคง ทางแม่ดาราหนุ่มก็ไม่ใช้หนี้ 2 แสนบาทคืนให้กลุ่มย่อยฯ เพื่อความอยู่รอดของกลุ่มฯ ผอ.วินัยจึงนำบ้านพร้อมที่ดินใน อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ไปยื่นกู้กับธนาคารเพื่อนำเงินมาใช้หนี้กลุ่มฯ แทนก่อน
แต่เรื่องราวไม่จบแค่นั้น เพราะเงินกู้จากธนาคาร 1.4 ล้านบาท ครูวิชชุ..แม่ดาราหนุ่มก็ไม่ยอมชดใช้ กระทั่งทางธนาคารได้มีหนังสือทวงหนี้จากผู้ค้ำประกันในช่วงเวลานั้น ผอ.สำเริง คันธวงค์ ผู้ค้ำประกันคนที่ 8 อยู่ที่ อ.อมก๋อย ได้เสียชีวิต ทางธนาคารได้มีหนังสือทวงหนี้ถึงภรรยา ทำให้ภรรยา ผอ.สำเริง เครียดจัดส่งผลให้เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิตไปอีกราย
ส่วน ผอ.สีมา ตอนนั้นอายุ 51 ปี ก็ถูกทวงหนี้เช่นกัน ทำให้คิดหนักจนเส้นเลือดฝอยแตกเป็นคนพิการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงลาออกจากราชการเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมาอยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งช่วงนั้นถูกธนาคารฟ้องเรื่องดังกล่าวต้องขี่รถจักรยานยนต์พ่วงสำหรับคนพิการข้ามจังหวัดเพื่อไปขึ้นศาล
ขณะที่ตัว ผอ.วินัย ที่เป็นผู้ค้ำประกันอันดับ 3 ถูกฟ้องยึดบ้านพร้อมที่ดินทาง ผอ.วินัย จนต้องรีไฟแนนซ์ย้ายธนาคารกู้เงินเพิ่ม รวมทั้งหนี้เก่าเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท เพื่อใช้หนี้เงินกู้แทนครูแม่ดารา
ผอ.วินัยเล่าอีกว่า คนเซ็นค้ำประกันที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือใช้หนี้ดังกล่าวก็มีอาจารย์มินทร์ 80,000 บาท และ ผอ.สิรภพ 100,000 บาท นอกนั้นตกที่ ผอ.วินัย รับหนี้ไปหมด ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังมาแล้ว ขณะที่อดีตครูแม่ดาราบอกไม่มีเงินชดใช้ให้ ลูกชายที่เป็นดาราก็รับปากว่าจะชดใช้เงินคืนให้แม่ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีการชดใช้เงินคืนและหลบหน้าหลบตาติดต่อไม่ได้
ผอ.วินัยเล่าถึงความเดือดร้อนตาแดงก่ำน้ำตาไหลพรากอีกว่า ในแต่ละเดือนถูกหักเงินเดือนใช้หนี้แทน เหลือเงินเพียง 2,000 บาท ไม่พอต่อค่าใช้จ่ายจนแทบไม่มีอะไรกิน ซึ่งตั้งแต่เป็นครูมาได้เสียสละช่วยเหลือสังคมมาตลอด ทั้งหาเงินสมทบทุนสร้างโรงเรียน สร้าง รพ.อมก๋อย ส่งเสริมเด็กนักเรียนยากจนได้ร่ำเรียนหนังสือจนจบมีงานทำไปหลายคน แต่ชีวิตบั้นปลายของตนกลับมาตกระกำลำบาก คงต้องใช้หนี้ไปจนวันตาย และสุดท้ายกล่าวขอฝากไปถึงครูวิชชุ..และลูกชายดารา ทราบข่าวนี้ติดต่อมาช่วยเหลือกันบ้าง