เที่ยวริมน้ำสะแกกรัง แวะตรอกโรงยา เมืองอุทัยธานี “เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” วันนี้วันศุกร์ที่ 23 เมษายน 2564 อากาศเช้า ๆ สบาย ๆ ยังไม่ร้อนมากครับหนุ่ม-สุทน ก็ต้องเขียนเล่าเรื่องให้ชาวแฟนเพจทุกท่านฟังเหมือนเดิม วันนี้พาท่องเที่ยวในแม่น้ำสะแกกรัง เลียบตัวเมืองอุทัยธานีหรือดังเดิมเรียกเมืองอู่ไทหรืออุไท
แม่น้ำสะแกกรัง สายนี้มีต้นกำเนิดของสายน้ำไหลมาจากเทือกเขาโมโกจูในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์จังหวัดกำแพงเพชรแต่สายน้ำไหลเป็นลำธารผ่านอำเภอลาดยาวจังหวัดนครสวรรค์มาเป็นแม่น้ำสะแกกรังผ่านตัวเมืองอุทัยธานีไหลไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยาเขตอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท มีความยาวประมาณ 225 ก.ม. ดังนั้นลำน้ำสายนี้เมื่อครั้งเป็นเมืองอู่ไทสมัยกรุงสุโขทัยชาวบ้านสร้างเรือนแพเพื่อพักอาศัยและประกอบอาชีพค้าขายและหากุ้งหาปลาซึ่งมีมากในแม่น้ำสะแกกรังโดยเฉพาะกุ้งสองแม่น้ำของชาวเกาะเทโพใกล้ ๆ ปากน้ำเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา
เที่ยวเมืองอุทัยธานีหรือจังหวัดอุทัยธานี นักท่องเที่ยวล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวเรือนแพได้ครับ สำหรับเรือนแพดั้งเดิมนั้นมีประมาณ 200 หลังคาเรือนต่อมาภาครัฐควบคุมการสร้างเรือนแพก็เลยทำให้เรือนแพเหลืออยู่ประมาณ 100 หลังคาเรือน ท่องเที่ยวได้ครับแม่น้ำสะแกกรังนั่งเล่นเพลิน ๆ ชมวิวทิวทัศน์เรือนแพ ขอบอกเมื่อสายน้ำเปลี่ยน สังคมเปลี่ยนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ชีวิตชาวเรือนแพจากเรือพาย เรือแจวทุกวันนี้ใช้เรือที่ใช้เครื่องยนตร์ ถ้าล่องเรือใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง สำหรับในตัวเมืองอุทัยธานีพลาดโอกาสไม่ได้ต้องเยี่ยมชมตรอกโรงยาย่านการค้าชาวจีนมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ในตรอกโรงยาเป็นอาคารห้องแถวไม้เก่าแก่ซึ่งเมื่อครั้งอดีตกาลตรอกนี้มีโรงฝิ่นเรียกว่าสูบฝิ่นถูกกฏหมายต่อมาทางภาครัฐก็ออกกฏหมายห้ามสูบฝิ่นเด็ดขาดถ้าหากสูบฝิ่นก็ผิดกฏหมายโรงฝิ่นก็หมดไปนี่แหละที่มาของชื่อ ตรอกโรงยา คือ ยาฝิ่นนั้นเองคิ
จังหวัดอุทัยธานี ถ้าหากหมดโรคโควิน 19 ที่ระบาดแล้ว ตรอกโรงยาตัวเมืองอุทัยธานี ต้องจัดเป็นถนนคนเดินอีกเช่นเคยเหตุผลตามปกติจะมีถนนคนเดินทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 16.00-20.30 น. เป็นถนนสายประวัติศาสตร์ชุมชนชาวจีนจังหวัดอุทัยธานี น่าท่องเที่ยวมาก ๆ ครับ จังหวัดอุทัยธานีสงบเงียบนักท่องเที่ยวสามารถปั่นจักรยานท่องเที่ยวได้ตามถนนสายต่าง ๆ ในตัวเมืองอุทัยธานี “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป…กับ…ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดี
เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์
แฟนเพจเฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/