รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “น้องบีม” เด็กสาววัย 17 ที่กำพร้าแต่เล็ก ทั้งเรียนและทำงาน ช่วยปู่ย่ารับจ้างเก็บมะกรูด หาเงินซ่อมบ้าน ฝันอยากเป็นทหาร แต่ไม่รู้จะมีทุนเรียนต่อหรือไม่?
น้องบีม “นันทนัช ชัยมงคล” เด็กสาววัย 17 คนนี้ แม้กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก จากปัญหาพ่อแม่แยกทางกัน และทิ้งให้เธออยู่กับปู่และย่าที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี แต่ด้วยความรักความกตัญญูที่มีต่อปู่ย่า ทำให้เธอพร้อมผจญความลำบาก เพื่อช่วยปู่ย่าทำงานรับจ้างเก็บมะกรูด ซึ่งเป็นอาชีพหลักของครอบครัว
5 ชีวิตอาศัยในกระต๊อบ!!
“อยู่กัน 5 คน มีปู่กับย่า น้อง และทวดข้างบ้าน (ถาม-พ่อแม่?) พ่อแม่ไปทำงาน แม่อยู่กำแพงเพชร พ่ออยู่ท่ามะกา (ถาม-ไม่ได้รับเราไปอยู่ด้วยหรือ?) อยู่กับปู่กับย่าตั้งแต่เล็กเลย”
“(ถาม-ความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง?) บ้านเป็นกระต๊อบเลย ฝนหยดยังไง ก็ต้องนอนอย่างนั้น อยู่ต่ำ น้ำท่วมก็ต้องท่วมเข้ามา น้ำไหลจากป่า ก็คือต้องเข้าบ้าน”
งานเก็บมะกรูด รายได้ไม่แน่นอน แถมเจอโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้งานน้อยลง
“มะละกอเราไปขายเช้ามืด 8 โมงปุ๊บเราก็จะเลิก เราก็จะรีบขึ้นไทรโยค ขึ้นไปเอามะกรูด งานมะกรูดเป็นงานประจำเรา”วิสัย ชัยมงคล ปู่น้องบีม ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับรถปิคอัพเพื่อพาสมาชิกในครอบครัวไปเก็บมะกรูดส่งผู้จ้าง
น้องบีม ซึ่งช่วยงานปู่ย่าตั้งแต่เด็ก อยากให้ปู่เหนื่อยน้อยที่สุด
“ให้เขาเหนื่อยน้อยที่สุด เขาก็ไม่ได้เรียนจบสูง พยายามให้ลูกเรียนสูงที่สุด เขาก็ไม่ค่อยมีตังค์ นี่ปกติ 60 ทำงานแล้ว ตัวเองจะต้องมีตังค์กินแล้ว แต่นี่ต้องหมกมุ่นอยู่กับมะกรูด หยุดงานก็ไม่ได้ หยุดงานก็อดตายแน่นอน”
สุขภาพของปู่น้องบีมก็ใช่ว่าจะดี ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องไต จนต้องรักษาตัวใน รพ.นานถึงครึ่งปี!!
“เป็นโรคไตเสื่อม แต่ยังไม่เรื้อรัง ควบคุมไม่ดี คือ ชะลออยู่ได้ พยายามควบคุมตัวเองให้ดี เมื่อก่อนต้องไปหาหมอทุกเดือน ตอนนี้ไตดีขึ้น 4 เดือนหมอนัดครั้ง (ถาม-เราป่วยตั้งแต่ตอนไหน อาการเป็นอย่างไร?) เรื่องของเริ่องคือ ขับรถมาก ขับรถตลอด ชีวิตนี้ขับรถสิบล้อส่งลูกเรียนจนจบหมด ขับมากๆ เรานั่งมาก บางวันขับถึง 500-600 กม.ต่อวัน นั่งมากๆ ก้นจะเป็นฝี กดทับ เป็นก็ไม่มีเวลารักษา ทำแต่งาน กินยาแก้ปวด กินไปกินมา ไตพัง พอไตเสื่อม ก็เข้า รพ. ผ่าตัดเสร็จ ไตวาย น็อกไปเลย”
ไม่มีเงินฟอกไต ขอปรับพฤติกรรมการกิน แม้ท้อ แต่สู้เพื่อหลาน
“ถ้าฟอกไต ต้องอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2,500 ขอร้องหมอว่า อย่าเพิ่งทำได้ไหม ขอควบคุมอาหาร การกินอยู่ ใช้ชีวิตใหม่ ของที่เขาห้าม ก็จะไม่แตะ กินข้าวเปล่าๆ จะไม่กินกับอะไรเลย 1 เดือน ที่จะให้ไตมันดีขึ้น ไม่ต้องฟอกไต เงินไม่มี รายได้จากวิ่งมะกรูดเที่ยวหนึ่งก็เหลือไม่กี่ตังค์ ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเดินได้ไหม (ถาม-ตอนนั้นท้อไหม?) ท้อ แต่นึกถึงหลาน สู้ทุกวันนี้”
เมื่อปู่สู้ หลานจะไม่สู้ได้อย่างไร!!
“ท้อมาก ตอนปู่กับย่าไม่มีอะไรเหลือเลย ไม่มีงานทำ ย่าก็ต้องนอน รพ.หนูก็ต้องไปโรงเรียน (ถาม-เราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้นไหม?) เรียนรู้เยอะเลยว่า ชีวิตต้องสู้ คนป่วยเขายังสู้เลย เราไม่สู้ได้ยังไง”
รายได้จากเก็บมะกรูด ไม่ค่อยพอรายจ่าย!!
“(ถาม-รายได้ต่อวันที่เก็บมะกรูดเท่าไหร่?) ได้ 400 ทำงานตั้งแต่ 6 โมงถึงเที่ยง บางวัน 8 โมงถึงเที่ยง (ถาม-แล้วเราเก็บที่ไหน ไกลไหม?) ไกล บางทีก็ไทรโยค บางทีก็ใกล้ๆ แถวบ้าน (ถาม-เดินทางอย่างไร?) รถกระบะไปกับปู่กับย่า นั่งรถไปนานประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ”
“ช่วงหน้าแล้งไม่มีลูกมะกรูดเก็บ ก็ต้องหาไปเรื่อยๆ ถ้าเขา(ผู้จ้าง) ต้องการ 45 ลัง วันนี้ได้ 10 ลัง วันอื่นก็ต้องเก็บให้ครบ (ถาม-ทำให้ต้องเดินทางไปเก็บหลายรอบ รายได้แทบไม่เหลือ หนักไหมสำหรับเรา?) หนัก ค่าไฟ ค่าน้ำโน่นนี่ เข้ามาๆๆ ไม่พอจ่าย บางวันก็พอ บางวันก็ไม่พอ บางวันเก็บมะกรูดได้เท่านี้ ผ่อนรถไปเท่านี้ ผ่อนรถไป 8,000 ตังค์ก็เหลือไม่เท่าไหร่แล้ว ถ้าไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ขายของตรงนี้ ก็ไม่มีตังค์เลย” น้องบีมฉายภาพรายได้รายจ่ายที่ไม่ค่อยสัมพันธ์กัน
ห่วงเรียน ไม่หยุดถ้าไม่จำเป็น
“สัปดาห์หนึ่ง ทำงานวันหนึ่ง แล้วไปเรียน 4 วัน แล้วแต่ว่างานมีกี่วัน ถ้าไม่จำเป็นไม่ขาดเรียน เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ ผลการเรียนก็ออกมาดี ได้ 2 กว่าเกือบ 3 บางทีก็ได้ 3 กว่า แล้วแต่บางเทอม”
ฝันอยากเป็น “ทหาร”
“เป้าหมายสูงสุด อยากเรียนถึงปริญญาตรี อยากเป็นทหาร (ถาม-ไม่อยากเก็บมะกรูดแล้วหรือ?) ไม่ ปู่กับย่าบอกว่า ดูปู่กับย่าเป็นตัวอย่าง เขาจบแค่ ป.4 ต้องมานั่งตากแดด ตากฝนแบบนี้ เขาก็อยากให้เราเรียนจบ ให้เราเรียนสูงๆ ขึ้นไป”
“(ถาม-คิดว่าจะได้เรียนต่อไหม?) คิดว่าจะมีโอกาสได้เรียนต่อ ถ้ามีทุน จะพยายามทำให้ได้ มีทุนอะไรหนูก็คว้าไว้หมด ถ้าไม่มี ถ้าเรียนต่อไม่ได้จริงๆ ก็เก็บมะกรูดนี่ที่ปู่กับย่าสร้างไว้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเรียนให้สูง เพราะงานมะกรูดมันเหนื่อย”
ปู่อยากเห็นหลานรับราชการ!!
“คนเป็นปู่เป็นย่าก็คาดหวังทุกคน แต่เราจะหวังได้ขนาดไหน อนาคตเราไม่รู้ เราก็หวังให้หลานเราเรียนจบ มีงานทำ อยากเห็นความสำเร็จของเขา (ถาม-อยากเห็นอนาคตหลานสองคนเป็นอย่างไร?) อยากให้เขารับราชการ พยายามดันให้รับราชการคนหนึ่งก็ยังดี”
น้องบีมขอบคุณปู่และย่าที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก รักปู่ย่าเหมือน “พ่อแม่คนที่สอง”!!
“ปู่กับย่าก็เหมือนพ่อแม่คนที่สอง อยากบอกว่ารักเขา ขอบคุณที่เขารับมาตั้งแต่เล็กๆ เขาไม่ยอมทิ้งเราให้เราเป็นเด็กกำพร้าเหมือนเด็กคนอื่น บางคนโดนทิ้งถังขยะเลย แต่ชีวิตเราไม่ได้เป็นแบบนั้น รักเขามาก โตไปอยากดูแลเขาเหมือนที่เขาดูแลเราตั้งแต่เล็ก”
แม้ปู่ย่า น้องบีม และยูไน น้องชายต่างพ่อแม่ จะพยายามทำงานเก็บเงินซ่อมแซมกระต๊อบ เพื่อให้มีความมั่นคงปลอดภัยขึ้น แต่เมื่อเงินไม่พอ งานซ่อมจึงไม่เสร็จเสียที น้องบีมหวังว่า ถ้ามีโอกาสเรียนจบ และทำงานมีตังค์ จะพยายามทำบ้านนี้ให้เสร็จ
“ต้องการมากที่สุดตอนนี้คือบ้าน อยากให้มันเสร็จไวๆ เพราะหนูก็โตเป็นสาวแล้ว คนแถวนี้ พูดง่ายๆ เป็นขี้ยาเยอะ หนูไม่ปลออดภัย เขาเดินหาหน่อไม้กัน หนู ห้องน้ำอยู่นี่ ห้องน้ำก็ไม่สมบูรณ์ ประตูยังพังเลย (ถาม-เคยมีเหตุการณ์ที่รู้สึกไม่ปลอดภัยไหม?) มี คนขึ้นบ้าน แล้วถามโน่นถามนี่ หนูก็กลัวเหมือนกัน”
“ถ้าหนูเรียนจบ หนูมีตังค์ ถ้าบ้านหลังนี้ยังไม่เสร็จ หนูจะปลูกให้ให้ปู่กับย่าได้อยู่”
“(ถาม-เคยเหนื่อยเคยท้อไหม?) มีเหนื่อยมีท้อบ้าง เห็นเพื่อนคนอื่นสบาย แต่เราไม่ได้สบายเหมือนเขา แต่ชีวิตก็ต้องสู้กันทุกคน บางคนรวย ใช้ชีวิตแบบสบาย แต่เราเกิดมาสู้ ดีแล้ว ความลำบากสอนให้เราอดทน”
หากท่านใดต้องการช่วยเหลือทุนการศึกษาและซ่อมแซมบ้านของน้องบีม สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาท่ามะกา ชื่อบัญชี น.ส.นันทนัช ชัยมงคล เลขที่บัญชี 714-0-66926-0
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “เด็กเก็บมะกรูด”
https://www.youtube.com/watch?v=ho2gDQOi1lI&t=1451s
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos