หนุ่มใหญ่ควงปืนบุกร้านโชห่วย เจอล็อกตัวจนมุม อ้างทำไปเพราะ ‘อยากติดคุก’
เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2565 พ.ต.ท.ยุทธนา พุกสุก สว.สอบสวน สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีชายอายุประมาณ 58 ปี ใช้อาวุธปืนจ่อยิงเจ้าของร้านโชห่วย ในพื้นที่ ม.4 บ้านโค้งวิไล ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงได้พบตัว นายแสวง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี จาก ต.โค้งไผ่ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ถูกชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ จากการบอกเล่าผู้ก่อเหตุได้มาจอดรถจักรยานยนต์ หน้าร้านวุฒิชัยเภสัช ด้วยอาการมึนเมา ทำทีเดินเข้าไปของซื้อบุหรี่ร้านโชห่วยใกล้ๆ เมื่อเจ้าของร้านเตรียมจะหยิบบุหรี่ให้ ผู้ก่อเหตุจึงชักปืนออกจากเอวจ่อไปที่เจ้าของร้าน แต่เจ้าของร้านหันมาเห็นและไหวตัวทันจึงใช้มือปัดอาวุธปืนและเข้ายื้อแย่งกัน เป็นเหตุให้ปืนลั่น 1 นัด แต่ไม่ถูกผู้ใด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยืดอาวุธปืนลูกซองสั้น ขนาดกระสุน เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.คลองขลุง เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุไม่มีเจตนาต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่ทำไปเพราะต้องการประชดชีวิต อยากติดคุก
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุออกจากห้องสืบสวนนำตัวขึ้นไปพบร้อยเวรเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ขณะตำรวจควบคุมตัว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ก่อเหตุถึงชนวนจูงใจในการก่อเหตุดังกล่าว ว่าทำไปเพราะอยากติดคุกจริงหรือไม่ ผู้ก่อเหตุพยักหน้า แต่ไม่ยอมพูดจาใดๆ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะ
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน พบว่ามีรอยแผลระหว่างการต่อสู้ที่ศอกด้านขวาและหน้าแข้ง ซึ่งถือว่าโชคดีที่รอดมาได้ พร้อมกับโชว์เหรียญปลอดภัยของ “หลวงพ่อสว่าง” เกจิดังอดีตเจ้าวาดวัดคฤหบดีสงฆ์ ต.ท่าพุทรา อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
นายศุภชัย จิรสินเกียรติ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.4 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร เจ้าของร้าน เล่าว่า ผู้ก่อเหตุมาซื้อบุหรี่ที่ร้านของตนเอง ตอนแรกก็ดูปกติดี โดยหลังจากที่ผู้ก่อเหตุซื้อบุหรี่แล้ว ก็ได้หันหน้าไปที่รถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งในขนาดนั้นตนก็กำลังคุยกับแฟนอยู่ หันมาอีกทีชายคนดังกล่าวก็เอาปืนจ่อมาที่ตนเองแล้ว จึงตัดสินใจแย่งปืนผู้ก่อเหตุ โดยจับแขนข้างที่ถือปืนของผู้ก่อเหตุพาดมาที่บ่าขวาและล็อกไว้ โดยปืนได้ลั่นเฉี่ยวหัวตนเองไป 1 นัด กระสุนทะลุเพดานร้าน จากนั้นพี่ชายที่กำลังยกของเข้ามาช่วยจับตัวคนก่อเหตุทันที ผู้ก่อเหตุได้ให้เหตุผลในการก่อเหตุว่าเพราะอยากติดคุก ซึ่งตนเองก็จะดำเนินคดีผู้ก่อเหตุว่าพยายามฆ่า
นายภาคภูมิ จันทราภรณ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 351 ม.4 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ร้านขายเสื่อเขียวที่เข้าไปจับคนก่อเหตุ เล่าว่า กำลังลงของอยู่หลังร้าน ได้ยินเสียงลูกพี่ลูกน้องตะโกนบอกว่ามีคนปล้นร้าน จึงวิ่งออกมาช่วยเหลือ จังหวะที่ลูกพี่ลูกน้องล้มลง คิดว่าถูกยิง จึงตะครุบตัวไว้ก่อน ผู้ก่อเหตุก็มีอาการขัดขืน ซึ่งก็มีอาการมึนเมา โดยคนก่อเหตุบอกว่า อยากติดคุก เพราะมีคนหุงข้าวให้กิน
ขณะที่ นางสวาส พี่สาวผู้ก่อเหตุ อายุ 61 ปี เล่าว่า น้องชายอยู่คนเดียว หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อน เมียเสียชีวิต ซึ่งไม่มีลูกด้วยกัน ช่วงหลังป่วยเป็นโรคประจำตัว และชอบดื่มเหล้า ได้แบ่งที่นากว่า 10 ไร่ ให้ทำมาหากิน แต่ช่วงหลังราคาปุ๋ยยาแพง ทำแล้วไม่เหลือ เป็นหนี้สินเลยหยุดทำ ซึ่งพอรู้ข่าวว่าไปก่อเหตุก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าน้องชายจะไปทำแบบนี้ โดยเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อไม่กี่ปีก่อนเมียตาย เพราะไปก่อเหตุยิงคนตายในหมู่บ้าน ตนก็ไม่รู้ว่าน้องชายเครียดเรื่องอะไร หากจะไปก่อเหตุเพื่อปล้นชิงทรัพย์คงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำแบบนั้นเพราะทั้งป่วยและชอบกินเหล้าเมา ซึ่งคงจะปล่อยให้ทางตำรวจดำเนินคดีไปเพราะคงไม่มีเงินทองไปประกันตัวช่วยเหลือคดี นี่ก็เพิ่งให้ผู้ใหญ่บ้านเอายาแก้โรคหอบไปส่งที่โรงพัก
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่