วันอังคาร ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565, 15.14 น.
‘โนรู’ฟาดหางถล่มกำแพงเพชร น้ำป่าทะลัก‘คลองลาน’-เตรียมแผน‘อพยพ’ชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กำแพงเพชร ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2565 อิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “โนรู” ทำให้ภาคเหนือตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ระหว่างวันที่ 25-28 กันยายน 2565 โดยกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า จังหวัดกำแพงเพชร มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ จากข้อมูลวันที่ 26 กันยายน 2565 ที่ผ่านมามีปริมาณฝนที่วัดได้ 62 มิลลิเมตร ทำให้ในบางพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร เกิดน้ำท่วมขังในเขตพื้นที่ใน อ.ปางตาไว อ.เมืองกำแพงเพชร รวมถึงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน อ.คลองลาน มีฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในน้ำตกคลองลาน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีน้ำป่าไหลสมทบ ปริมาณน้ำมากกว่าปกติ และขณะนี้ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแต่อย่างใด เพราะอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่า อาจจะต้องมีการการอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำขึ้นที่สูง
ทั้งนี้ จากภาพถ่ายของอาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดคลองลาน ทำให้เห็นปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาจากภูเขาลงสู่น้ำตกคลองลานและไหลไปยังลำน้ำต่างๆ โดยขณะนี้มวลน้ำที่ไหลผ่าน อ.ปางศิลาทอง อ.คลองลาน อ.คลองขลุง เพื่อไหลลงแม่น้ำปิง ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยฝากเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะเดียวกันในเขตพื้นที่ของ อบต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านในพื้นที่ระดมพลสร้างสะพานข้ามคลองชั่วคราวทดแทนท่อลอดเหลี่ยมที่ถูกกระแสน้ำพัดจนพัง
นายปัญญา ประดาพล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปางตาไว กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “โนรู” ในเขต อำเภอปางศิลาทอง ซึ่งอยู่ทางซีกทิศตะวันตกของจังหวัดเป็นพื้นที่ติดเทือกภูเขาสูงจึงทำให้เกิดเหตุน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ระหว่างบ้านเพชรมงคลหมู่ที่ 9 และบ้านใหม่วงค์เขาทอง(กลุ่มหลังเขา) หมู่ที่ 11 เป็นเหตุให้ท่อลอดเหลี่ยมที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านได้รับความเสียหายราษฎรและนักเรียนไม่สามารถสัญจรได้โดยเฉพาะกลุ่มหลังเขามีราษฎรอยู่ 20 ครัวเรือน มีนักเรียนโดยประมาณ 15 คน เดินทางมาเรียนที่โรงเรียนบ้านเพชรมงคล ซึ่งอยู่ที่หมู่ 9 บ้านเพชรมงคล
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นชาวบ้านจึงรวบรวมรายชื่อและขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลปางตาไว ดำเนินการช่วยเหลือ พร้อมจัดซื้อต้นยูคา ให้ขอความร่วมมือด้านแรงงานชาวบ้าน มาช่วยกันก่อสร้างจนเสร็จและสามารถใช้งานได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเส้นทางตรงนี้หากไม่ดำเนินการนักเรียนจะต้องเดินทางอ้อมโดยประมาณ 11 กิโลเมตร หากข้ามสะพานเสร็จจะใช้ระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ขณะนี้องค์การบริหารส่วนตำบลปางตาไวได้รับงบประมาณเร่งด่วนในการเกิดอุทกภัยมาดำเนินการซ่อมแซมเป็นเงินจำนวน 1 ล้านกว่าบาท เพื่อสร้างท่อลอดเหลี่ยมจำนวน 5 ช่องทดแทนแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างช่วงการดำเนินการที่เป็นไปตามระเบียบราชการ
-005